วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2562

Past of speech



อ้างอิง
https://www.tonamorn.com/english/grammar/part-of-speech/

https://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/parts-of-speech-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%94/

Part of Speech คืออะไร

  • Part อ่านว่า พ๊าท แปลว่า ส่วน, ชิ้นส่วน
  • of ออฟ แปลว่า ของ
  • Speech คือ คำพูด
ตามหลักแกรมม่าแล้ว Part of Speech ภาษาอังกฤษ แปลว่า “ส่วนของคำพูด” แต่ความหมายจริงๆของมันคือ ประเภทของคำหรือชนิดของคำนะครับ ก่อนจะสรุปว่า Part of speech คืออะไร  ลองมาอ่านประโยค part of speech ง่ายๆเหล่านี้ก่อนนะครับ
→ My name is Tom. ชื่อของผมคือทอม (นาม)
→ I am American. ผมคือคนอเมริกัน(สรรพนาม)
→ I’m tall and slim. ผมตัวสูงและเพรียว(คุณศัพท์)
→ I can play tennis. ผมเล่นเทนนิสเป็น (กริยา)
→ And I can run fast. และมผมสามารถวิ่งได้เร็ว (กริยาวิเศษณ์)
→ I love Thailand and Thai people. ผมรักประเทศไทยและคนไทย(สันธาน)
→ It’s hot in April. มันร้อยในเดือนเมษายน (บุรพบท)
→ Well!! I must go now. Bye. อ้อ ผมต้องไปเดี๋ยวนี้ (อุทาน)
เห็นตัวแดงๆหนาๆไหมครับ นั่นคือคำชนิดต่างๆครับผม ดังนั้นสรุปได้ว่า part of speech คือ คำประเภทต่างๆซึ่งมีด้วยกัน 8 ชนิด

 ◊ Part of Speech เขียนอย่างไรให้ถูก

เนื่องจากการเรียนหลักแกรมม่า ทุกคนจะต้องรู้จักคำว่า  parts of speech เป็นด่านแรก แต่หลายคนยังเขียนไม่ค่อยถูกกัน บ้างก็เขียนว่า path of speech แปลว่า “หนทางของคำพูด” บ้างก็เขียนว่า past of speech แปลว่า “อดีตของคำพูด” บ้างก็เขียน part of speed แปลว่า “ส่วนของความเร็ว” บางคนหนักกว่าเขียนว่า past of speed แปลว่า “อดีตของความเร็ว”
ส่วนคำว่า parts of speech เมื่อเราจะสื่อความหมายว่ามันมีถึง 8 อันนะ นั่นคือ  The eight parts of speech คือ คำพูดทั้ง 8 ชนิด

♦ Part of speech หน้าที่คืออะไร

เนื่องจากเรารู้ความหมายแล้วว่า part of speech คือคำทั้ง 8 ชนิด ดังนั้นหน้าที่ของมันหลักๆก็คือการรวมตัวกันเป็นวลี หรือประโยคเพื่อใช้ในการสื่อสารดังตัวอย่างเนื้อหาด้านบน ซึ่งคำแต่ะละประเภทก็มีหน้าที่ Functions แตกต่างกันกันออกไปเช่น noun ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรมของประโยค verb ทำหน้าที่บ่งบอกการกระทำของประธานpreposition ทำหน้าที่เชื่อมคำ เป็นต้น
การจะเรียนรู้เรื่อง part of speech อย่างละเอียด ไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนวันเดียวให้เข้าใจได้ทั้งหมด เพราะมีทั้งเรื่องหลักๆ และรายละเอียดหยุมหยิมมากมาย ดังนั้นค่อยๆเรียนรู้ทำความเข้าใจไปทีละอย่างนะครับ

♦ Part of speech มีกีชนิดหรือกี่ประเภท

อย่างที่เกริ่นนำไปแล้วว่า part of speech มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่
1. Noun (คำนาม) คือคำที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ (รวมถึง ชื่อของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่)
  • คน เช่น boy girl man student doctor king father/ John Sam Ted Tom
  • สัตว์ เช่น dog cat bird tiger / Simba Kitty
  • สิ่งของ เช่น TV radio fan car soap / Sony Samsung Lux
  • สถานที่ เช่น market bank city country / London Thailand England

2. Pronoun (สรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนคำนามด้านบน เช่น I me/ you/ he him/ she her/it/ this /that
3. Adjective (คุณศัพท์) คือคำที่ใช้บอกลักษณะของคำนาม เช่น tall short small big
4. Verb (กริยา) คือคำที่ใช้แสดงการกระทำ เช่น go come run walk
5. Adverb (กริยาวิเศษณ์) คือคำที่ใช้อธิบายการกระทำว่าทำอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เช่น fast slowly here there today yesterday
6. Conjunction (คำสันธาน) คือคำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยค เช่น and but or so
7. Preposition (คำบุรพบท) คือคำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ของคำ เช่น in on at by from
8. Interjection (คำอุทาน) คือคำที่ใช้แสดงอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ เสียใจ เช่น wow eh um

Part of speech ที่ต้องเรียนรู้พลาดไม่ได้

  • หัวข้อรองคือ 5 6 7 8 เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน คล้ายภาษาไทยเลย
  • 4 ข้อแรกต้องศึกษาให้ละเอียดแจ่มแจ้งหน่อย เพราะกฎเกณฑ์ต่างจากภาษาไทยค่อนข้างมากทีเดียว ซึ่งหัวข้อที่ควรศึกษามีรายละเอียดดังนี้


วันพฤหัสบดีที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2562

คำศัพท์ที่ควรรู้ในสนามบิน การเดินทาง ท่องเที่ยว



เช็คอิน เคาน์เตอร์สายการบิน

Airline Counter : เคาน์เตอร์สายการบิน
Check-in desk : เคาน์เตอร์เช็ค-อิน
One-way trip : เดินทางเที่ยวเดียว
Round trip : เดินทางไปกลับ
Passenger : ผู้โดยสารสายการบิน
Transit Passenger : ผู้โดยสารที่แวะลงสนามบินแห่งใดแห่งหนึ่ง เพื่อทำการเปลี่ยนเครื่อง โดยไม่แวะเข้าอยู่ในประเทศหรือเมืองนั้นๆ
Passport หนังสือเดินทาง
Visa : วีซ่า
Boarding pass : ตั๋วเครื่องบิน , บัตรผ่านขึ้นเครื่องบิน, เอกสารระบุเลขที่นั่งใช้สำหรับผ่านเข้าเขต ผู้โดยสารขาออกและขึ้นเครื่องบิน
Flight number : หมายเลขเที่ยวบิน
Gate : ประตูขึ้นเครื่อง
Check-in closes 40 minutes before departure : เช็คอินปิด 40 นาทีก่อนการเดินทาง

เที่ยวญี่ปุ่นราคาเบาๆ


ประเทศญี่ปุ่นเป็นอีกจุดหมายหนึ่งของนักเดินทางที่จะต้องได้เดินทางไปเยือนสักครั้ง ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม ผู้คนสถานที่ท่องเที่ยว เรามาดูกันค่ะว่าควรวางแผนอย่างไรในกรไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้างตามมาเลย

วางแผนเที่ยวญี่ปุ่น


ก่อนที่ผมจะเดินทางไปเที่ยวแต่ละครั้งก็ต้องมีการวางแผนไว้คร่าวๆก่อนครับ ว่าจะไปที่ไหนบ้าง ไปกี่วัน จะเดินทางแบบไหน นอนที่ไหนในแต่ละคืน จองตั๋วที่ไหนดี อะไรประมาณนี้ครับ โดยทริปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ผมเริ่มจากการจองตั๋วเครื่องบินก่อนครับโดยได้โปรจาก expedia เป็นการจองตั๋วเครื่องบินพร้อมโรงแรม โดยผมเลือกบินกับ HongKong Airline ครับไปต่อเครื่องที่ฮ่องกง

เมื่อได้ตั๋วแล้วก็ทำการจองโรงแรมในแต่ละคืนต่อเลยครับ จากนั้นผมก็มาดูว่าเส้นทางที่ผมจะไปนั้นเดินทางอย่างไร มีพาสอะไรลองรับมั้ย ก็มาลงตัวที่ JR East-South Hokkaido Rail Pass ซึ่งสามารถใช้ได้ 6 วันครับ ส่วนรายละเอียดของการเที่ยวแต่ละวันค่อยมาทำอีกครั้งครับ

งบประมาณเที่ยวญี่ปุ่น


สำหรับงบประมาณของทริปเที่ยวญี่ปุ่นรอบนี้ของผม จะลงให้ดูตามด้านล่างนี้ครับ จะเป็นงบคร่าวๆนะครับ อาจจะมีบวก ลบ หรือตกหล่นไปบ้าง หลักๆจะเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่าพาสต่างๆ

- ค่าตั๋วเครื่องบิน + ที่พัก 2 คืนที่ Sotetsu Fresa Inn Nihonbashi Kayabacho 12,500 บาท/คน

- ค่าโรงแรม Manza Kogen Hotel รวมอาหารเช้า+อาหารค่ำ คืนละ 4,500 บาท/สองคน

- ค่าโรงแรม Hotel Sharoum-inn 2 ที่ Hakodate 2 คืน ราคา 2,700 บาท/สองคน

- ค่าโรงแรม Hotel Sunroute Sapporo ที่ Sapporo 2 คืน ราคา 6,200 บาท/สองคน

- ค่าโรงแรม Narita Airport Rest House ใกล้สนามบินนาริตะ ราคา 2,300 บาท/สองคน

- ค่า JR East-South Hokkaido Rail Pass : 6 Day ราคา 26,000 ¥ (7,580 THB)/คน

ค่าใช้จ่ายหลักๆจะประมาณนี้ครับ ส่วนค่ากินแต่ละวัน ค่าเดินทางนอกเหนือจากพาสนี้ผมจะลงให้ดูในรีวิวแต่ละตอนอีกครั้งครับผม

ตารางรถไฟเที่ยวญี่ปุ่นที่จองล่วงหน้าไว้แล้ว

ด้านบนนี้ก็คือรถไฟที่ผมได้ทำการจองที่นั่งล่วงหน้าจากเมืองไทยไปครับ ส่วนมากจะเป็นรถไฟ shinkansen ที่พาสผมใช้ได้ครับผม จองไว้ก่อนจะได้อุ่นใจ มีที่นั่งแน่นอน แพลนเที่ยวจะได้มีเปลี่ยนครับ

เที่ยวญี่ปุ่นช่วงไหนดี


เป็นคำถามที่ตอบยากมากครับ ความชอบคนเราไม่เหมือนกัน งบประมาณการเที่ยวก็มีไม่เท่ากัน บางคนชอบช่วงซากุระบานอากาสไม่หนาวมาก บางคนชอบช่วงใบไม้เปลี่ยนสี บางคนชอบหน้าหนาวหิมะฟูๆ ถ้าใครงบน้อยก็อาจจะชอบมาช่วงหน้าร้อนเพราะจะมีโปรโมชั่นราคาถูกออกมาเยอะ แต่ทริปนี้ผมเลือกเดินทางมาหน้าหนาวครับ หนาวมากด้วย ฮ่าๆ ชอบหิมะเยอะๆครับ ยิ่งขึ้นไปแถวๆ Sapporo ยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่เลย

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2562

กระบวนการผลิตอาหารกระป๋อง


Canned food หรือ อาหารกระป๋อง คือ อาหารที่ผ่านการถนอมอาหาร (food preservation) ด้วยการใช้ความร้อน (thermal processing) โดยวิธีการบรรจุกระป๋อง (canning) ซึ่งเป็นการบรรจุอาหารในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดผนึกสนิท (hermectically sealed container) ก่อนนำไปฆ่าเชื้อทางการค้า (commercial sterilization) สามารถเก็บรักษาได้นาน ประมาณ 6 เดือน ถึง 3 ปี  ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่เสื่อมเสีย




เครื่องจักรและอุปกรณ์แปรรูปอาหารกระป๋อง
  • เครื่องจักรในการเตรียม
  • เครื่องบรรจุกระป๋อง
  • เครื่องไล่อากาศ
  • เครื่องปิดผนึก
  • เครื่องฆ่าเชื้อ รีทอร์ท (retort
  • อุปกรณ์ขนส่ง /ลำเลียง