อ้างอิง
https://www.tonamorn.com/english/grammar/part-of-speech/
https://xn--12cl9ca5a0ai1ad0bea0clb11a0e.com/parts-of-speech-%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%9E%E0%B8%B9%E0%B8%94/
Part of Speech คืออะไร
- Part อ่านว่า พ๊าท แปลว่า ส่วน, ชิ้นส่วน
- of ออฟ แปลว่า ของ
- Speech คือ คำพูด
ตามหลักแกรมม่าแล้ว Part of Speech ภาษาอังกฤษ แปลว่า “ส่วนของคำพูด” แต่ความหมายจริงๆของมันคือ ประเภทของคำหรือชนิดของคำนะครับ ก่อนจะสรุปว่า Part of speech คืออะไร ลองมาอ่านประโยค part of speech ง่ายๆเหล่านี้ก่อนนะครับ
→ My name is Tom. ชื่อของผมคือทอม (นาม)
→ I am American. ผมคือคนอเมริกัน(สรรพนาม)
→ I’m tall and slim. ผมตัวสูงและเพรียว(คุณศัพท์)
→ I can play tennis. ผมเล่นเทนนิสเป็น (กริยา)
→ And I can run fast. และมผมสามารถวิ่งได้เร็ว (กริยาวิเศษณ์)
→ I love Thailand and Thai people. ผมรักประเทศไทยและคนไทย(สันธาน)
→ It’s hot in April. มันร้อยในเดือนเมษายน (บุรพบท)
→ Well!! I must go now. Bye. อ้อ ผมต้องไปเดี๋ยวนี้ (อุทาน)
เห็นตัวแดงๆหนาๆไหมครับ นั่นคือคำชนิดต่างๆครับผม ดังนั้นสรุปได้ว่า part of speech คือ คำประเภทต่างๆซึ่งมีด้วยกัน 8 ชนิด
◊ Part of Speech เขียนอย่างไรให้ถูก
เนื่องจากการเรียนหลักแกรมม่า ทุกคนจะต้องรู้จักคำว่า parts of speech เป็นด่านแรก แต่หลายคนยังเขียนไม่ค่อยถูกกัน บ้างก็เขียนว่า path of speech แปลว่า “หนทางของคำพูด” บ้างก็เขียนว่า past of speech แปลว่า “อดีตของคำพูด” บ้างก็เขียน part of speed แปลว่า “ส่วนของความเร็ว” บางคนหนักกว่าเขียนว่า past of speed แปลว่า “อดีตของความเร็ว”
ส่วนคำว่า parts of speech เมื่อเราจะสื่อความหมายว่ามันมีถึง 8 อันนะ นั่นคือ The eight parts of speech คือ คำพูดทั้ง 8 ชนิด
♦ Part of speech หน้าที่คืออะไร
เนื่องจากเรารู้ความหมายแล้วว่า part of speech คือคำทั้ง 8 ชนิด ดังนั้นหน้าที่ของมันหลักๆก็คือการรวมตัวกันเป็นวลี หรือประโยคเพื่อใช้ในการสื่อสารดังตัวอย่างเนื้อหาด้านบน ซึ่งคำแต่ะละประเภทก็มีหน้าที่ Functions แตกต่างกันกันออกไปเช่น noun ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรมของประโยค verb ทำหน้าที่บ่งบอกการกระทำของประธานpreposition ทำหน้าที่เชื่อมคำ เป็นต้น
การจะเรียนรู้เรื่อง part of speech อย่างละเอียด ไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนวันเดียวให้เข้าใจได้ทั้งหมด เพราะมีทั้งเรื่องหลักๆ และรายละเอียดหยุมหยิมมากมาย ดังนั้นค่อยๆเรียนรู้ทำความเข้าใจไปทีละอย่างนะครับ
♦ Part of speech มีกีชนิดหรือกี่ประเภท
อย่างที่เกริ่นนำไปแล้วว่า part of speech มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชนิด ได้แก่
1. Noun (คำนาม) คือคำที่ใช้แทนคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ (รวมถึง ชื่อของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่)
- คน เช่น boy girl man student doctor king father/ John Sam Ted Tom
- สัตว์ เช่น dog cat bird tiger / Simba Kitty
- สิ่งของ เช่น TV radio fan car soap / Sony Samsung Lux
- สถานที่ เช่น market bank city country / London Thailand England
2. Pronoun (สรรพนาม) คือ คำที่ใช้แทนคำนามด้านบน เช่น I me/ you/ he him/ she her/it/ this /that
3. Adjective (คุณศัพท์) คือคำที่ใช้บอกลักษณะของคำนาม เช่น tall short small big
3. Adjective (คุณศัพท์) คือคำที่ใช้บอกลักษณะของคำนาม เช่น tall short small big
4. Verb (กริยา) คือคำที่ใช้แสดงการกระทำ เช่น go come run walk
5. Adverb (กริยาวิเศษณ์) คือคำที่ใช้อธิบายการกระทำว่าทำอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ เช่น fast slowly here there today yesterday
6. Conjunction (คำสันธาน) คือคำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยค เช่น and but or so
7. Preposition (คำบุรพบท) คือคำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์ของคำ เช่น in on at by from
8. Interjection (คำอุทาน) คือคำที่ใช้แสดงอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ เสียใจ เช่น wow eh um
Part of speech ที่ต้องเรียนรู้พลาดไม่ได้
- หัวข้อรองคือ 5 6 7 8 เพราะไม่มีอะไรซับซ้อน คล้ายภาษาไทยเลย
- 4 ข้อแรกต้องศึกษาให้ละเอียดแจ่มแจ้งหน่อย เพราะกฎเกณฑ์ต่างจากภาษาไทยค่อนข้างมากทีเดียว ซึ่งหัวข้อที่ควรศึกษามีรายละเอียดดังนี้
1. คำนาม
- นามทั่วไป กับนามเฉพาะ (เรียนผ่านแล้วผ่านเลย ไม่สำคัญเท่าไหร่)
- นามเอกพจน์ พหูพจน์ (เรียนให้เข้าใจ จำให้ได้) เพราะ
– การเปลี่ยนเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับว่าคำนั้นมีพยัญชนะตัวใดลงท้าย เช่น s, sh, ch, x, o, y, f เป็นต้น
– นามพหูพจน์บางตัวไม่เปลี่ยนรูปเลย ไม่ว่าเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ เช่น deer sheep fish
– นามบางตัวลงท้ายด้วย s ซึ่งน่าจะเป็นพหูพจน์ แต่กลับเป็นเอกพจน์เฉยเลย เช่น news, physics
– นามบางตัวเปลี่ยนสระภายในเพื่อแสดงความเป็นพหูพจน์ เช่น men children
2. สรรพนาม
- บุรุษสรรพนาม (Personal pronoun) สรรพนามที่คนไทยสับสนเพราะมี 2 ประเภท แยกชัดเจนว่าตัวไหนเป็นประธาน ตัวไหนเป็นกรรมในขณะที่ภาษาไทยและอีกหลายภาษาในประเทศที่อยู่ภูมิภาคเอเชีย สรรพนามที่เป็นประธานกับกรรมใช้ตัวเดียวกัน เช่น
- ผมรักหล่อน และหล่อนรักผม
เห็นไหมครับว่า คำว่า หล่อน กับ ผม ไม่ว่าจะเป็นประธานของประโยคหรือกรรมของประโยคก็เป็นตัวเดียวกันเลยทีนี้มาดูตัวอย่างของภาษาอังกฤษบ้าง- I love her and she loves me.
ผม รัก หล่อน และ หล่อน รัก ผมเห็นไหมว่าคำว่าผมมีทั้ง I และ me และคำว่า หล่อน ก็มีทั้ง her และ she ตรงนี้แหละที่สร้างความปวดหัวให้กับผู้เรียน เพราะต้องจดจำให้ดีว่าคำไหนเป็นประธานและคำไหนเป็นกรรมของประโยค
สรรพนามตัวไหนเป็นประธานและตัวไหนเป็นกรรม
แล้วจะสังเกตตรงไหนละว่าตัวไหนเป็นประธาน ตัวไหนเป็นกรรม ก็สังเกตที่คำกริยานะครับ ตัวไหนอยู่ก่อนกริยาตัวนั้นเป็นประธาน ตัวไหนอยู่หลังกริยาตัวนั้นเป็นกรรมครับ เช่นI love her and she loves me.คำกริยาก็คือ love- คำที่อยู่หน้า love คือ I และ she สองตัวนี้เป็นประธาน
- คำที่อยู่หลัง love คือ me และ her สองตัวนี้เป็นกรรม
มาดูตารางด้านล่างกันเลยว่าสรรพนามที่เป็นประธาน และกรรมมีอะไรบ้าง (ท่องให้จำขึ้นใจก็ได้นะครับ)
ประธาน
|
กรรม
|
คำแปล
|
I อาย
|
me มี
|
ฉัน
|
You ยู
|
you ยู
|
คุณ
|
He ฮี
|
him ฮิม
|
เขา
|
She ชี
|
her เฮอ
|
หล่อน
|
It อิท
|
it อิท
|
มัน
|
We วี
|
us อัส
|
พวกเรา
|
They เด
|
them เด็ม
|
พวกเขา
|
ตัวอย่างประโยค
- I love you. ฉันรักคุณ
- You love him. คุณรักเขา
- He loves her. เขารักหล่อน
- She loves it. หล่อนรักมัน
- It loves us. มันรักพวกเรา
- We love them. พวกเรารักพวกเขา
- They love me. พวกเขารักฉัน
- My name is John. I am a student. ฉันชือจอน ฉันเป็นนักเรียน
- This is Mr. Tom. He is my friend. นี่คือคุณทอม เขาเป็นเพือนฉัน
- Those are my brothers. They are good at math. นี่คือบรรดาพี่ชายของฉัน พวกเขาเก่งคณิต
คำว่า They/them หมายถึง สัตว์ สิ่งของ ด้วยนะครับ ไม่ใช่เฉพาะคนเท่านั้น
- Those are my cats. They are my friends and I like them.
เหล่าโน้นคือแมวของฉัน พวกมันเป็นเพื่อนของฉัน และฉันรักพวกมัน
- These are cheap cars. They are imported from Japan.
นี่ คือ รถยนต์ ราคาถูก พวกมัน ถูกนำเข้า จาก ประเทศญี่ปุ่น
3. คุณศัพท์
- แปลงร่างได้ สามแบบ คือ ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นสูงสุด และมีหลักเกณฑ์แยกย่อยไปอีกว่าทำยังไงให้ถูกต้องตามหลักภาษา
การทำคำคุณศัพท์ให้เป็นขั้นกว่า และขั้นที่สุด
ให้จำง่ายๆข้อแรกก่อนเลยคือ เติม -er ในขั้นกว่า และ the – est สำหรับขั้นที่สุด เช่นขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นที่สุด tall สูง taller สูงกว่า the tallest สูงที่สุด small เล็ก smaller เล็กกว่า the smallest เล็กที่สุด short สั้น shorter สั้นกว่า the shortest สั้นที่สุด long ยาว longer ยาวกว่า the longest ยาวที่สุด old แก่ older แก่กว่า the oldest แก่ที่สุด cheap ถูก cheaper ถูกกว่า the cheapest ถูกที่สุด ง่ายจัง เติมเอาอย่างนี้ทุกตัวหรือเปล่า ….ไม่ได้ต้องมีกฎกติกานิดหนึง♥ กฎการเติม -er และ -est
- คำที่มีสระเสียงสั้นตัวเดียว และตัวสะกดตัวเดียว ถ้าคุณสมบัติครบสองข้อนี้ ให้เติมตัวสะกดอีกตัวเข้าไป แล้วเติม -er -est เช่น
ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นที่สุด big ใหญ่ bigger the biggest hot ร้อน hotter the hottest thin ผอม thinner the thinnest fat อ้วน fatter the fattest sad เศร้า sadder the saddest - คำลงท้ายด้วย y ให้ตัด y ออก แล้วเติม -ier -iest เช่น
ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นที่สุด dirty สกปรก dirtier the dirtiest dry แห้ง drier the driest funny ตลก funnier the funniest lucky โชคดี luckier the luckiest noisy เสียดัง noisier the noisiest - คำสองพยางค์ที่ลงท้ายด้วย -ed, -ful, -ing, -less, -ous ให้ใช้ more..than และ the most ข้างหน้า เช่น
ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นที่สุด worried เป็นกังวล more worried the most worried helpful ชอบช่วยเหลือ more helpful the most helpful boring น่าเบื่อ more boring the most boring useless ไร้ประโยชน์ more useless the most useless famous มีชื่อเสียง more famous the most famous - คำที่มีสามพยางค์ขึ้นไป ให้ใช้ more..than และ the most ข้างหน้า เช่น
ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นที่สุด important สำคัญ more important the most important expensive แพง more expensive the most expensive dangerous อันตราย more dangerous the most dangerous difficult ยาก more difficult the most difficult - คำเหล่านี้เป็นข้อยกเว้นพิเศษ ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์
ขั้นปกติ ขั้นกว่า ขั้นที่สุด good ดี better the best bad เลว worse the worst far ไกล farther the farthest little เล็ก less the least many มาก more the most 4. กริยา - สุดยอดของหัวใจวายากรณ์ สุดยอดแห่งความยาก (สำหรับนักเรียนส่วนใหญ่ เพราะขี้เกียจอ่าน ขี้เกี่ยจจำ ขี้เกียจทบทวน)
- กริยาหนึ่งตัวแปลงร่างได้หลากหลายเช่น go goes going went gone ทั้งหมดที่เห็นนี้แปลว่า ไป แต่ไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับว่าเอาไปใช้ Tense อะไร
- กริยาแต่ละ Tense มีหน้าตาไม่เหมือนกันเลย หรือมีเหมือนกันบ้าง
- คำว่า buy ช่อง 2 คำเขียนคือ bought แต่ก็อ่านคล้าย taught ที่แปลว่าสอน ครับ ออกเสียง ออคำว่า have คืออีกคำหนึ่งที่ต้องจดจำให้แม่น เพราะตัวนี้ใช้ได้ในหลาย Tense
กริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล
- ตารางกริยาอปกติ
Irregular Verb กริยาอปกติช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 3 แปล 1be = is, am, are was, were been เป็น อยู่ คือ 2become (บิคั๊ม) became (บิเค๊ม) become กลายเป็น 3begin (บิกิ๊น) began (บิแก๊น) begun (บิกั๊น) เริ่มต้น 4bet เบ็ท bet เบ็ท bet พนัน 5bite ไบท bit บิท bitten (or bit) บิทเทิน กัด 6bleed บลีด bled เบล็ด bled เลือดออก 7blow บโล blew บลู blown บโลน พัด เป่า ตี 8break เบรก broke บโรค broken บโรคเคิน แตก 9bring บริง brought บรอท brought นำมา เอามา 10build บิลด built บิลท built สร้าง 11burst เบิสท burst burst ระเบิด 12buy บาย bought บอท bought ซื้อ 13catch แค็ทช caught คอท caught จับ , ขึ้นรถ 14choose ชูส chose โชส chosen โชเซิน เลือก 15come คัม came เคม come มา 16cost คอสท cost cost มีราคา 17cut cut cut ตัด 18dig ดิก dug ดัก dug ขุด 19dive ไดฝ dived (or doveโดฝ) dived ไดฝด ดำนํ้า 20do ดู did ดิด done ดัน ทำ 21draw ดรอ drew ดรู drawn ดรอน ลาก วาด เขียน 22drink ดริงค drank ดแรงค drunk ดรังค ดื่ม 23drive ไดรฝ drove ดโรฝ driven ดริฝเฝิน ขับ(รถ) 24eat อีท ate เอท eaten อีทเทิน กิน 25fall ฟอล fell เฟ็ล fallen ฟอลเลิน ตก หล่น 26feel ฟีล felt เฟ็ลท felt รู้สึก 27fight ไฟท fought ฟอท fought ต่อสู้ 28find ไฟนด found เฟานดึ found พบ 29fly ฟลาย flew ฟลู flown ฟโลน บิน 30forbid ฟอบิด forbade ฟอเบด forbidden ฟอบิดเดิน ห้าม 31forget ฟอเก็ท forgot ฟอก็อท forgotten ฟอก็อทเทิน ลืม 32freeze ฟรีส froze โฟรส frozen โฟรสเซิน แข็งตัว หนาว 33get เก็ท got ก็อท got เอา ได้รับ 34give กิฝ gave เกฝ given กิฝเฝิน ให้ 35go โก went เว็นท gone กอน ไป 36grind กรายด ground กราวด ground บด ลับ 37grow กโร grew กรู grown กโรน เติบโต, ปลูก 38hang (pictures) แฮง hung ฮัง hung แขวน ห้อย 39hang (people) แฮง hanged แฮงด hanged แขวนคอ 40have แฮฝ had แฮด had มี 41hear เฮีย heard เฮิด heard ได้ยิน 42hide ฮายด hid ฮิท hidden ฮิดเดิน ซ่อน 43hurt เฮิท hurt hurt ทำร้าย 44know โน knew นู known โนน รู้ 45lay เล laid เลด laid วาง ออกไข่ 46lead ลีด led เหล็ด led นำ 47learn เลิน learnt เลินท learnt เรียนรู้ 48leave ลีฝ left เล็ฟท left ละทิ้ง, จากไป 49lend เล็นด lent เล็นท lent ให้ยืม 50lie ลาย lay เล lain เลน นอน 51light ไลท lit ลิท lit จุดไฟ 52lose ลูส lost ลอสท lost แพ้ ทำหาย 53make เมค made เมด made ทำ 54meet มีท met เม็ท met พบ 55mistake มิสเตค mistook มิสตุค mistaken มิสเตคเคิน ทำผิด 56pay เพ paid เพด paid จ่าย 57put พุท put put วาง 58quit ควิท quitted ควิทเท็ด (or quit) quit ควิท เลิก 59read หรีด read เหร็ด read เหร็ด อ่าน 60ride รายด rode โรด ridden ริดเดิน ขี่ 61ring ริง rang แรง rung รัง สั่น (กระดิ่ง) 62rise ไรซ rose โรส risen ริสเซิน ขึ้น ลุกขึ้น 63run รัน ran แรน run วิ่ง 64say เซ said เซด said พูด 65see ซี saw ซอ seen ซีน เห็น 66seek ซีค sought ซอท sought ค้นหา 67sell เซ็ล sold โซลด sold ขาย 68set เซ็ท set set จัด 69shake เชค shook ชุค shaken เขย่า สั่น 70shine ชายน shone โชน shone ส่องแสง 71shrink ชริงค shrank ชแรงค shrunk ชรัง หดลง สั้นลง 72sing ซิง sang แซง sung ซัง ร้องเพลง 73sink ซิงค sank แซงค sunk ซังค จม ถอยลง 74sit ซิท sat แซ็ท sat แซ็ท นั้ง 75slide สไลด slid สลิด slid สื่นไถล, เลื่อนไป 76sleep สลีพ slept สเล็พท slept นอนหลับ 77speak สปีค spoke สโปค spoken สโปเคิน พูด 78spin สปิน spun สปัน spun ม้วน กรอ ปั่นฝ้าย 79split สปลิท split split แตก, แยก 80spring สปริง sprang สแปรง sprung สปรัง โดดอย่างเร็ว, เด้ง 81sting สติง stung สตัง stung สตัง ต่อย, แทง 82stink สติงค stank สแตงค stunk สตังค ส่งกลิ่นเหม็น 83strike สไตรค struck สตรัค struck ตี, ต่อย? กระทบ 84string สตริง strung สตรัง strung ผูกเชือก ขึงสาย 85swear สแว swore สวอ sworn สวอน สาบาน ปฏิญาณ 86swell สเว็ล swelled สเว็ลด swollen สวอลเลิน โตขึ้น หนาขึ้น 87swim สวิม swam สแวม swum ว่ายนํ้า 88swing สวิง swung สวัง swung แกว่ง, เหวี่ยง 89take เทค took ทุค taken เทคเคิน เอา พาไป 90teach ทีช taught ทอท taught สอน 91tear แท tore ทอ torn ทอน ฉีก ขาด 92tell เท็ล told โทลด told บอก 93think ธิง thought ธอท thought คิด 94throw ธโร threw ธรู thrown ธโรน เหวี่ยง ขว้าง 95wake เวค woke โวค waken เวคเคิน ตื่น, ปลุก 96wear แว wore วอ worn วอน สวม, ใส่ 97weave วีฝ wove โวฝ woven โวฝเฝิน ทอผ้า, สาน 98weep วีพ wept เว็พท wept ร้องไห้ 99win วิน won ว็อน won ชนะ 100write ไรท wrote โรท written ริทเทิน เขียน - ตารางกริยาปกติ
REGULAR VERB กริยาปกติ No ช่อง 1 ช่อง 2 ช่อง 3 แปล 1 answer answered answered ตอบ (คำถาม) รับ (โทรศัพท) 2 arrive arrived arrived มาถึง ไปถึง 3 attend อะเท็นด attended อะเท็นเด็ด attended (เข้าร่วม) ประชุม 4 beg เบก begged เบกด begged ขอ 5 call คอล called คอลด called เรียก โทรหา 6 change เชนจึ changed เชนจดึ changed เปลี่ยน 7 clean คลีน cleaned คลีนด cleaned ทำความสะอาด 8 cook คุค cooked คุคท cooked ทำอาหาร 9 cry คราย cried ครายด cried ร้องไห้ 10 dance แดนซ danced แดนซท danced เต้นรำ 11 die ดาย died ดายด died ตาย 12 end เอนด ended เอนดิด ended จบ 13 fix ฟิกซ fixed ฟิกซท fixed ซ่อม 14 hate เฮท hated เฮททิด hated เกลียด 15 help เฮ็ลพ helped เฮ็ลพท helped ช่วย 16 kiss คิส kissed คิสท kissed จูบ 17 lift ลิฟท lifted ลิฟเท็ด lifted ยก 18 listen ลิซเซิน listened ลิซเซินด listened ลิซเซินด ฟัง 19 live ลิฝ lived ลิฝด lived อาศัยอยู่ 20 look ลุค looked ลุคท looked มอง 21 love เลิฝ loved เลิฝด loved รัก 22 move มูฝ moved มูฝด moved มูฝด ย้าย ขยับ 23 need นีด needed นีดเด็ด needed นีดเด็ด ต้องการ 24 paint เพ๊นท painted เพ๊นทิด painted วาดภาพ ระบายสี 25 plan แพลน planned แพลนด planned วางแผน 26 play เพล played พเลด played เล่น 27 rain เรน rained เรนด raind ฝนตก 28 return returned returned กลับคืน 29 serve เสิฝ served เสิฝด served เสิร์ฟ 30 shop ช็อพ shopped ช็อพท shopped จ่ายตลาด 31 smoke สโมค smoked สโมคท smoked สโมคท สูบบุหรี่ 32 sneeze สนีส sneezed สนีสด sneezed จาม 33 snow สโน snowed สโนด snowed หิมะตก 34 stay สเต stayed สเตด stayed พักอาศัย 35 stop สต็อพ stopped สต็อพท stopped หยุด 36 study สตัดดิ studied สตัดดิด studied เรียน 37 talk ทอค talked ทอคท talked สนทนา 38 travel แทรเวิล traveled แทรเวิลด traveled ท่องเที่ยว 39 visit วิสิท visited วิสิทเท็ด visited วิสิทเท็ด เยี่ยม เที่ยว 40 wait เวท waited เวททิด waited รอ 41 want ว็อนท wanted ว็อนทิด wanted ว็อนทิด ต้องการ 42 wash วอช washed วอชท washed ล้าง 43 watch ว็อทช watched ว็อทชท watched ว็อทชท ดู 44 work เวิค worked เวิคท worked ทำงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น